Vic3Bet เว็บคาสิโนออนไลน์อันดับ 1

Red Kale  ผักคะน้าเป็นผักซึ่งสามารถเพาะปลูกได้ทั้งปี (แม้กระนั้นช่วงเพาะปลูกที่ยอดเยี่ยมจะในตอนต.ค. – ม.ย.) มีช่วงเวลาสำหรับในการเก็บเกี่ยวสั้น สำหรับบ้านพวกเราสายพันธุ์ที่นิยมนำมาปลูกจะมีอยู่ร่วมกัน 3 สายพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่น ประเภทใบกลม ชนิดใบแหลม ประเภทยอดหรือก้าน ฯลฯ เมื่อหาซื้อมาแล้วควรจะเก็บใส่ไว้ภายในกล่องหรือถุงก๊อบแก๊บ ผูกหรือปิดให้แน่นและจากนั้นจึงนำไปแช่เอาไว้ภายในช่องเก็บผักของตู้แช่เย็น ซึ่งเป็นแนวทางที่จะสามารถช่วยรักษาวิตามินในผักให้ดำรงอยู่ได้มากที่สุด

ผักใบเขียวอย่างคะน้า เป็นผักที่อยู่ในเมนูอาหารไทยหลายรายการอาหารร่วมกัน ทั้งคะน้ายังเป็นผักที่ได้ผลผลิตทุกฤดู กล่าวได้ว่าหาผลประโยชน์ของผักคะน้ามากินกันได้ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ว่าแม้คนไหนกันยังไม่ทราบคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากผักคะน้าว่ามีคุณประโยชน์ดีเช่นไร วันนี้กระปุกดอทคอมได้นำ ประโยช์จากคะน้า ผักใบเขียวเปี่ยมค่าคะน้าเป็นผักใบเขียวที่นิยมกินกันทั่วๆไป เป็นผักที่หาซื้อง่าย ราคาถูก แต่ว่ามีสิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษนอกเหนือจากการแปดเปื้อนของยากำจัดแมลงแล้ว บางทีก็อาจจะต้องระมัดระวังในเรื่องของธาตุแคดเมียมที่บางครั้งอาจจะแปดเปื้อนมาพร้อมกับน้ำแล้วก็พื้นดินด้วย เนื่องจากถ้าร่างกายได้รับเข้าไป มันจะเข้าไปสะสมในตับรวมทั้งไต ซึ่งจะเป็นพิษต่อตับแล้วก็ไตของคุณเอง

 

Red Kale 

คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากคะน้า Red Kale

และก็ก่อนเอามากินคุณควรจะล้างชำระล้างก่อนทุกคราว ด้วยการล้างน้ำสะอาดหลายๆครั้ง หรือจะล้างด้วยการใช้น้ำก๊อกไหลผ่านอย่างต่ำ 2 นาที หรือจะใช้สารละลายอื่นๆก็จะดีเลิศ ยกตัวอย่างเช่น น้ำยาล้างผัก น้ำส้มสายชู เกลือละลายน้ำ ฯลฯ (เพราะว่าผักคะน้านั้นขึ้นชื่อว่าเป็นผักที่เจอสารพิษตกค้างหรือสารกำจัดศัตรูพืชเยอะที่สุด) ผักคะน้ามีสารกอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งการได้รับในจำนวนที่มากเกินความจำเป็นอาจทำให้กำเนิดอาการท้องอืดท้องอืด ร่างกายขาดแร่ไอโอดีน ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคคอพอก และก็ยังไปยั้งการผลิตฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์อีกด้วย ซึ่งจะมีผลให้ร่างกายของพวกเรานำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อยกว่าธรรมดา ฯลฯ ทางที่เหมาะสมที่สุดควรจะหลบหลีกการกินผักจำพวกบ่อยๆเดิมๆและก็ควรที่จะเลือกกินผักให้นานาประการ ร่างกายจะได้ประโยชน์สูงที่สุด

  • มีสารต้านทานอนุมูลอิสระ ก็เลยช่วยชะลอความเสื่อมถอยของเซลล์ต่างๆภายในร่างกายได้
  • ผักคะน้ามีประโยชน์ซึ่งนำมาช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในกับร่างกาย ทำให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
  • ช่วยบำรุงรักษาผิวพรรณและก็คุ้มครองการได้รับเชื้อต่างๆ
  • ผักคะน้ามีวิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างเสริมเยื่อให้เปียกชื้นเยอะขึ้น (วิตามินซี)
  • คุณประโยชน์ผักคะน้าช่วยทำนุบำรุงรวมทั้งรักษาสายตา (วิตามินเอ)
  • คุณประโยชน์ของคะน้ามีสารลูทีน (Lutein) ซึ่งช่วยลดการเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจก-ได้ถึง 29% (ลูทีน)
  • ช่วยลดการเสี่ยงของการเกิดโรคหน้าจอประสาทตาเสื่อมแล้วก็ยังช่วยคุ้มครองการเสื่อมของศูนย์เรตินาได้อีกด้วย

คะน้าเป็นผักที่มีวิตามินเอสูง แถมยังมีวิตามินซีอีกไม่น้อย ด้วยเหตุผลดังกล่าว  Red Kale    การกินผักคะน้าก็เลยช่วยเพิ่มสารอาหารที่ดีต่อแนวทางการทำงานของระบบภูมิต้านทานร่างกาย ช่วยทำให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีคุณภาพสำหรับเพื่อการคุ้มครองโรคต่างๆโดยลดจังหวะมีการอักเสบของเยื่อ รวมทั้งลดการเสี่ยงลักษณะของการเจ็บเจ็บป่วยโดยรวมได้ เว้นแต่สารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีนแล้ว ในผักคะน้ารวมถึงผักใบเขียวทุกหมวดหมู่ยังมีสารลูทีน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในเซลล์ผิว ช่วยบำรุงรักษาผิวพรรณให้เรียบเนียนไม่มีริ้วรอยที่วัยโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือกรรมวิธีศัลยกรรมอะไรก็แล้วแต่ทั้งยังวิตามินซีในผักคะน้ายังจะช่วยเพิ่มความชื้นให้เยื่อมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยนะคะ

นานัปการรายการอาหารน่าทาน มักมีผักคะน้าเป็นส่วนประกอบอยู่ในจานนั้นเสมอ ซึ่งรายการอาหารที่หลายท่านอยากได้ยินเมื่อไปกินข้าวที่ร้านค้าตามสั่งก็อาจจะหนีไม่พ้นรายการอาหารผัดคะน้าปลาเค็ม เพราะว่านอกเหนือจากจะเป็นรายการอาหารที่เชื้อเชิญให้ทานข้าวได้อย่างอร่อยมากแล้ว ยังให้ท่านผลดีเยอะแยะอีกด้วย วันนี้พวกเราก็เลยขอนำเอาคุณประโยชน์ดีๆที่ได้จากการทานผักคะน้ามาแชร์ให้ผู้หญิงได้รู้กันจ้ะ ขอบอกเลยว่าผักคะน้าช่วยทำนุบำรุงร่างกายได้ดูเหมือนจะทุกส่วนอย่างยิ่งจริงๆ ตามมามองกันจ้ะว่าผักประเภทนี้ช่วยทำนุบำรุงส่วนไหนของร่างกายกันบ้าง งานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งบอกว่าเมื่อวัดระดับน้ำตาลในเลือดของกลุ่มทดลองที่กินผักเคลจำนวน 7 กรัมร่วมกับของกินอื่นๆพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมงน้อยลง การกินผักเคลก็เลยบางทีอาจมีประโยชน์ต่อคนที่มีสภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหลังรับประทานอาหาร (Postprandial Hyperglycemia)

 

Red Kale 

ลดการเสี่ยงของโรคมะเร็ง

ผักเคลเป็นผักในเครือญาติกะหล่ำที่มีสารกลูวัวสิโนเลต (Glucosinolates) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ผักมีรสขมแล้วก็มีกลิ่นแรง ขึ้นรถนี้จะกระจายตัวออกมาในวิธีการย่อยของกินเปลี่ยนเป็นสารกรุ๊ปอินโดล (Indoles) และก็ไอโซไธโอไซยาเนท (Isothiocyanates) ที่มีคุณลักษณะช่วยกำจัดของเสียภายในร่างกาย มีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบ แล้วก็คุ้มครองปกป้องความเสื่อมโทรมของเซลล์ ก็เลยบางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงของโรคมะเร็งบางจำพวกนอกจากนั้น ผักเคลมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยสร้างเสริมรูปแบบการทำงานของระบบภูมิต้านทาน ต้านทานการอักเสบแล้วก็อนุมูลอิสระ ก็เลยคาดการณ์ว่าบางทีอาจช่วยปกป้องการเกิดโรคมะเร็งได้ อย่างไรก็ดี คุณประโยช์จากผักเคลที่มีต่อการคุ้มครองโรคมะเร็งยังกำกวม ก็เลยบางทีอาจจะต้องคอยผลการศึกษาวิจัยแล้วก็ศึกษาค้นคว้าเพิ่มในอนาคต

มาถึงในยุคนี้ “เคล” ถูกตั้งชื่อว่าเป็นราชินีที่ผักสีเขียวทั้งหมดทั้งสิ้น (Queen Of Greens) และก็ได้รับการยินยอมรับว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ดหรือของกินที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงแล้วก็นานาประการ เมื่อเทียบกับผักจำพวกอื่นๆในจำนวนที่เสมอกันโดยผักเคลต้มสุก 1 ถ้วยหรือโดยประมาณ 118 กรัม มีสารอาหารจำนวนมาก อาทิเช่น โปรตีน, แคลเซียม, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, ธาตุเหล็ก, วิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินเค, วิตามินบี1 บี2 บี3, เส้นใย และก็ที่สะดุดตาสุดๆเป็นมีสารลูทีนและก็ซีแซนทีน ในจำนวนมาก ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยเลี้ยงดูดวงตาได้อย่างยอดเยี่ยม

เริ่มกันที่ผักเคลใบหยิกทั่วๆไป ผักเคลชนิดนี้มีลักษณะใบที่ใหญ่ Red Kale   มีขอบหยัก ลำต้นยาว สีของใบมีตั้งแต่ว่าเขียวเข้ม สีน้ำเงินไปจนกระทั่งแดงอมม่วงเลยครับผม โดยถ้าหากเป็นสีน้ำเงินพวกเราจะเรียกเขาว่า Dwarf Blue Curled Kale หรือ Vate Blue Curled Kale ถ้าเป็นสีแดง พวกเราจะเรียกว่า Scarlet Curly Kale ซึ่งเคลใบหยิกทั่วๆไปนี้จะมีเอกลักษณ์พิเศษเป็นมีกลิ่นแรงรวมทั้งรสมีความขมผสมหวานอยู่หน่อยๆเป็นพืชที่อยากได้แสงสว่างแดงจัด ถูกใจอากาศหนาว ปลูกได้ตลอดทั้งปีการนำเคลใบหยิกไปทำครัวโดยมากมักใช้กระเทียมและก็น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะกอกมาผัดด้วยกันเพื่อลดความขมของเคล หรือถ้าคนใดกันต้องการทานเป็นสลัดสามารถนำเคลใบหยิกไปจัดคู่กับผลไม้รสหวานอมเปรี้ยวนิดๆอย่างสตรอว์เบอร์รี่ แล้วก็ น้ำสลัดเลมอนทาฮินี(lemon-tahini) เพื่อปรับให้รสสมดุล แล้วก็ที่สำคัญเป็นเคลใบหยิกทัวไปสามารถเอามาปั่นเป็นสมูทตี้ หรือผสมคู่กับผลไม้อื่นเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้ด้วยนะครับ

เบบี้เคล (Baby Kale) ก็คือใบรวมทั้งก้านอ่อนของผักเคลนั่นเอง ปกติพวกเราจะไม่ปรุงเบบี้เคลโดยการนำไปผ่านความร้อนหรือนวดให้บอบช้ำ เพราะเหตุว่าตัวผักมีลักษณะที่อ่อนนิ่มรวมทั้งพร้อมทานอยู่แล้ว ส่วนมากจะใช้เป็นผักแซมผสมอยู่ในสลัดจานชามใหญ่ ด้วยรสสัมผัสและก็กลิ่นที่ไม่มากมายพอๆกับผักเคลที่โตเต็มวัย ทานง่าย ก็เลยเหมาะกับคนที่อยากได้คุณค่าจากผักใบเขียว หรือทดสอบสัมผัสกับรสของผักเคลในเลเวลเริ่ม สำหรับผู้ใดที่พึงพอใจต้องการทดลองทานผักเคล ไม่ว่าจะเป็นเคลใบหยิก เคลไดโน เคลสีแดง หรือเบบี้เคล สามารถติดต่อมาและสอบถามรวมทั้งสั่งซื้อกับ noBitter “ฟาร์มผักไม่เป็นอันตรายจุดศูนย์กลางเมือง” ได้เลยครับผม พวกเรากำลังทดสอบปลูกผักแปลกๆหายากจำพวกใหม่ๆรับประกันว่าสะอาดไม่มีอันตรายตลอดแนวทางการปลูกจนถึงส่งถึงมือคุณ

เคลสายพันธุ์นี้เป็นเคลที่มีชื่อเรียกนานาประการสูงที่สุด บางบุคคลเรียกเคลไดโนเสาร์(Dinosaur Kale) เนื่องจากว่าใบหน้าดันไปเหมือนไดโนเสาร์ชนิดอะแพโทซอรัส(Apatosaurus)หรือไดโนเสาร์คอยาว ชื่ออื่นๆที่ชอบนิยมเรียกยกตัวอย่างเช่น Italian Kale, Tuscan Kale, flat back kale หรือ black Tuscan palm จุดแข็งของเคลสายพันธุ์นี้อยู่ตัวใบที่ยาว ไม่หยิกงอเสมือนสายพันธุ์ธรรมดา ใบมีสีเขียวปนสีน้ำเงินเข้ม เป็นของกินหลักของชาวอิตาเลี่ยนมานาน รสออกมันบดเพลิดเพลินขอรับ เคลไดโนเสาร์นี้เหมาะสมกับมื้อของกินในฤดูหนาวอย่างยิ่ง โดยยิ่งไปกว่านั้นการกินคู่กับซุปถั่วเลนทิลร้อนๆจะยิ่งเพิ่มความอร่อยเป็นสิบเท่าเลยครับผม แม้กระนั้นถ้าเกิดเป็นเมืองไทยพวกเราผมว่าเอามาคลุกด้วยน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะกอกแล้วจับคู่กับมันฝรั่งหวานหรือพริกก็อร่อยไม่แพ้กัน แถมดีต่อร่างกายด้วยขอรับ

 

Red Kale 

คะน้าเคล มีธาตุเหล็กสูงเกินไปกว่าเนื้อวัวก็เลยสำคัญต่อร่างกาย

โดยยิ่งไปกว่านั้นสตรีเพราะว่าช่วยสำหรับเพื่อการสร้างฮีโมโกลบินและก็โปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีลำเลียงออกสิเจนไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ช่วยสำหรับในการเติบโตของเซลล์ รูปแบบการทำงานของตับดีขึ้น  การกินผักเคล หรือผักคะน้าใบหยักอุดมไปด้วยวิตามินเคสูงสามารถช่วยปกป้องโรคมะเร็งต่างๆได้ นอกนั้นวิตามินเคยังจำเป็นจะต้องต่อแนวทางการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกายรวมทั้งช่วยสร้างความแข็งแรงให้กระดูกใ ช่วยปกป้องการแข็งตัวของเลือด ช่วยในวิธีการทำงานของตับ ช่วยทุเลาอาการเมนส์มามากยิ่งกว่าธรรมดา ช่วยปกป้องสภาวะเลือดออกไม่หยุด ช่วยในแนวทางการฟอสโฟริเลชั่น โดยยิ่งไปกว่านั้นในคนป่วยโรคอัลไซเมอร์ควรจะรับประทานผักเคลมากขึ้นเป็น 2 เท่า ช่วยเสริมลักษณะการทำงานของสมอง

คะน้าเคลเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณภาพ อาทิเช่น แคโรทีนอยด์และก็ฟลาโวนอยด์ ออกฤทธิ์ต้านทานโรคมะเร็ง ยั้งการแบ่งตัวเพิ่มของเซลล์ของมะเร็ง ช่วยการเสี่ยงของโรคมะเร็งต่างๆอย่างเช่น โรคมะเร็งตับ โรคมะเร็งเต้านมในผักคะน้าจะมีสารกอยโทรเจน (Goitrogen) สารที่มีส่วนยั้งการผลิตฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ารับประทานผักคะน้าดิบๆในจำนวนมาก อาจจะทำให้สารกอยโทรเจนเข้าไปกีดกันลักษณะการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม จนถึงก่อกำเนิดอาการท้องอืดตามมาได้ แต่ทว่าถ้านำผักคะน้าไปปรุงสุก สารกอยโทรเจนก็จะละลายหายไปกับความร้อน พวกเราก็จะรับประทานคะน้าได้อย่างสบายท้องเยอะขึ้นเรื่อยๆนะคะ

อย่างไรก็ดี คะน้าจัดเป็นผักที่มีสารตกค้างออกจะสูง เพราะเหตุว่าคะน้าเป็นพืชที่ถูกใจมีศัตรูพืชมารบกวน  Red Kale   เกษตรกรผู้ปลูกผักคะน้าก็เลยบางทีอาจจำเป็นจะต้องใช้ยากำจัดศัตรูพืชกับคะน้ามากยิ่งขึ้น นำมาซึ่งการทำให้คะน้ามีสารตกค้างมาขึ้นไปด้วย แต่ว่าในขณะนี้เกษตรอินทรีย์และก็การปลูกผักออร์แกนิกแพร่หลายมากเพิ่มขึ้น ก็หวังว่าผู้ใช้อย่างพวกเราๆจะมีทางเลือกซื้อคะน้าที่ปราศจากพิษกันมาบริโภคกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วยนะคะคะน้าเป็นผักใบเขียวที่นิยมกินกันทั่วๆไป เป็นผักที่หาซื้อง่าย ราคาถูก แม้กระนั้นมีสิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษนอกเหนือจากการแปดเปื้อนของสารกำจัดแมลงแล้ว

บางทีก็อาจจะต้องระมัดระวังในเรื่องของธาตุแคดเมียมที่บางทีก็อาจจะแปดเปื้อนมาพร้อมกับน้ำแล้วก็พื้นดินด้วย เนื่องจากถ้าร่างกายได้รับเข้าไป มันจะเข้าไปสะสมในตับรวมทั้งไต ซึ่งจะเป็นพิษต่อตับและก็ไตของคุณเอง และก็ก่อนเอามากินคุณควรจะล้างชำระล้างก่อนทุกคราว ด้วยการล้างน้ำสะอาดหลายๆครั้ง หรือจะล้างด้วยการใช้น้ำก๊อกไหลผ่านอย่างต่ำ 2 นาที หรือจะใช้สารละลายอื่นๆก็จะดีเยี่ยม ดังเช่นว่า น้ำยาล้างผัก น้ำส้มสายชู เกลือละลายน้ำ ฯลฯ (ด้วยเหตุว่าผักคะน้านั้นขึ้นชื่อว่าเป็นผักที่เจอสารพิษตกค้างหรือยากำจัดแมลงเยอะที่สุด)

ผักคะน้ามีสารกอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งการได้รับในจำนวนที่มากเกินความจำเป็นอาจส่งผลให้  vic3bet กำเนิดอาการท้องอืดท้องอืด ร่างกายขาดธาตุไอโอดีน ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคคอพอก และก็ยังไปยั้งการผลิตฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์อีกด้วย ซึ่งจะก่อให้ร่างกายของพวกเรานำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อยกว่าธรรมดา ฯลฯ ทางที่เหมาะสมที่สุดควรจะหลบหลีกการกินผักจำพวกบ่อยๆเดิมๆและก็ควรจะเลือกกินผักให้นานัปการ ร่างกายจะได้ประโยชน์สูงที่สุด

เคล เป็นหนึ่งในผักใบเขียวจัดและมีสีม่วงเข้มแซมอยู่บ้างในบางใบ และใคร ๆ ต่างก็บอกกันว่าเป็นผักใบเขียวที่มีรสชาติกรอบ อร่อย อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย นำมาทำเมนูผักเคลได้อีกหลากหลายรายการ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาทำความรู้จักผักเคลกันดีกว่าว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพด้านไหนบ้าง และกินยังไงให้อร่อยไปกับทุกจาน