killer book club พากย์ไทย กรุ๊ปเพื่อนฝูงที่ประทับใจเรื่องราวสยองขวัญแปดคนจะต้องต่อสู้กับคนร้ายตัวตลก ที่รู้เรื่องราวที่ปกปิดไว้เป็นความลับอันมืดดำของทั้งยังแปดคน และก็เริ่มกำจัดวัยรุ่นครั้งละคน ดูหนังประเทศสเปนแบบหวานมันๆมาหลายเรื่องแล้ว ปรับโหมดมาสู่หนีการไล่ล่าตามแบบฉบับหนังตื่นเต้นสั่นประสาทกันสักหน่อย กับหนังสุดตื่นเต้น ที่จะพาผู้ชมออกตามหาร่องรอยว่าผู้ใดกันแน่เป็นฆาตกรตัวตลกตัวจริง
กับบรรยากาศชักชวนวังเวงและไม่น่าวางใจ มันเป็นสูตรสำเร็จมหกรรมฆ่าโหดเหี้ยมที่ยังทำให้เสียวได้ไม่แปรผัน เกิดเหตุราวของกรุ๊ปนิสิตรักการอ่านงานเขียนแนวสยองขวัญแหล่งรวมตัวกันตั้งสมาคม ตราบจนวันหนึ่งพวกเขาตกลงปลงใจใส่หน้ากากตัวตลกและจากนั้นก็ไล่ล่าขู่อาจารย์ที่บากบั่นจะล่วงละเมิดทางเพศเพื่อนพ้องหญิงในประชุม แต่มันบานปลายแปลงเป็นเหตุไม่คาดคิด พวกเขาตกลงปลงใจที่จะเก็บหัวข้อนี้เอาไว้เป็นความลับ หากแม้ถัดจากนั้นไม่นานได้มีนักเขียนนิรนามเผยตัวขึ้น
พร้อมกับยุแหย่สมาชิกชมรมว่าจะต้องมีการบูชาชีวิตไปทีละคนนี่ได้ผลงานดูแลหนังยาวเรื่องแรกของ “การ์ลอส อลอนโซ โอเจ” ที่เคยมีประสบการณ์ทำหนังสั้นแล้วก็มิวสิควิดีโอฝั่งประเทศสเปนมานับตรงเวลานับเป็นเวลาหลายปีมานี้ ได้มือเขียนบทจากซีรีส์แนวสยองขวัญการฆ่าดังๆจากประเทศสเปน อย่าง “การ์ลอส กราเซีย ไม่แรนดา” (จากซีรีส์ Los Protegidos: A.D.N. รวมถึง The Boarding School) ที่ถือว่าสไตล์ร้อยเรื่องที่ค่อนข้างจะซ้ำๆซากๆรวมทั้งถือเอาสูตรสำเร็จหนังแนวนี้มาแต่งขึ้นใหม่
killer book club พากย์ไทย เต็มเรื่อง
ดังต่อไปนี้ก็ต้องยอมรับว่า เป็นหนังที่สร้างบรรยากาศความเคลือบแคลงเอาไว้รุ่งโรจน์ตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นฉากต่างๆรวมถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับคน ถึงมันจะค่อนข้างจะตื้นแล้วหลังจากนั้นก็เป็นพล็อตทื่ผู้ชมน่าจะทายใจได้อย่างง่ายๆก็ตาม มันอาจะเสมอๆกับหนังไล่ฆ่ากันของฮอลลิวูดตอนยุคปี 2000s มีกลิ่นความเป็น Scream กับ I Know What You Did Last Summer แบบเชยๆแล้วอะไรทำนองนั้น แม้กระนั้นโทนหนังก็เอามาปรับกับยุคสมัยใหม่ให้น่าสนใจดีขึ้น
แต่กระนั้นความแหลมคมคายของ ก็ยังไม่ถึงกับขนาดสร้างเสน่ห์รุ่งโรจน์ขนาดนั้น เนื่องจากหนังยังเต็มไปด้วยจุดบกพร่องในหลายๆจุด ซึ่งถูกใจยังพอกลบเรี่ยราดข้อด้อยต่างๆได้จากวิถีทางที่นักสร้างหนังถ่ายทอดออกมาแล้วก็พวกเขาทราบดีว่าผู้ชมต้องการแลเห็นและก็ปรารถนามองดูอะไร การเดินเรื่องค่อนจะฉับไวรวมทั้งเร็วไวดีเป็นสิ่งที่น่าประทับใจ หนังเรื่องนี้แทบไม่มีจังหวะที่เชื่องช้า เพียงแต่ปล่อยให้ผู้ชมมีความคิดว่ามันเกิดเหตุจริงหรือหลอกเพียงเท่านั้น
ทางด้านการแสดงก็จัดว่ากรุ๊ปแคสติ้งนำออกมาได้น่าพอใจ ถึงเราจะไม่ได้รู้จักดีกับอาการการแสดงของพวกเขาสักเท่าไหร่ก็ตาม “เวกี เบลิลลา” จัดว่าแบกรับหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้ได้ค่อนจะใช้ได้ โชคดีที่คุณยังมีเพื่อนเกลอๆกรุ๊ปศิลปินสมทบมาช่วยช่วยเหลือไปได้อยู่บ้าง หากแม้จัดว่าอินเนอร์ทางการแสดงของคุณค่อนข้างจะทำออกมาได้ดี ผู้ชมพร้อมที่จะงงเต็กแล้วก็สับสนไปกับตัวละครของคุณเองด้วย ท่ามกลางยุคที่หนังแนว whodunit สร้างขึ้นมาเป็นดอกเห็ด
โดยสรุปแล้ว อาจจะเป็นหนังการฆ่าที่ไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่สักเท่าไหร่โครงเรื่องค่อนจะเสมอๆเดิมๆราวหนังฮอลลิวูดเมื่อ 20 ปีก่อน แม้กระนั้นพวกเขารู้จักหนทางดีที่จะสร้างความสนุกสนานร่าเริงเชิงยินดีโดยการใช้วิตถุดิบที่มีอยู่ หนังค่อนจะเล่าได้ฉับไวดี เพียงแค่สาระของเรื่องและก็หัวข้อหลักของหนังอาจจะยังมีน้ำหนักความถ่วงยังไม่พอเยอะแค่ไหน
ในส่วนท้ายแล้ว นี่ก็แปลงเป็นเพียงแค่หนังตามหาว่าผู้ใดกันเป็นฆาตกรตัวจริง โดยที่ยังอยู่บนรากฐานของการฆ่าแบบขาดเหตุผลสักเท่าไหร่ มันเป็นพล็อตที่ผู้ชมน่าจับทางได้ไม่ยาก แล้วก็ถูกใจใช้ลูกเล่นมาหลอกและหลอนผู้ชมให้งงเต็กอยู่เรื่อยๆบางครั้งอาจจะยังไม่ใช่ตื่นเต้นที่น่าประทับใจสุดๆและยังไม่ใช่เรื่องน่าเขียนดวงใจที่สุด ถึงแม้ก็พอใช้เพลินใจๆฆ่าเวลาในขณะที่หาอะไรดูไม่ได้เจริญก้าวหน้าระดับหนึ่ง
รีวิว ชมรมหนังสือฆาตกร (2023)
หนังแนวสแลชเชอร์ผู้ร้ายไล่ฆ่าคนของประเทศสเปนที่ไม่ได้มีความแปลกอะไรก็แล้วแต่เลย ตั้งแต่เค้าโครงเรื่องที่เปรียบเสมือนเอาหนังสยองขวัญระดับตำนาน 2 เรื่อง โน่นเป็น I Know What You Did Last Summer รวมกับ Scream ตั้งแต่เค้าเรื่องกลุ่มนิสิตสมาคมหนังสือที่ร่วมกันทำไม่ดีฆ่าผู้เสียชีวิตโดยไม่ได้เจตนาแล้วปกปิดข้อบกพร่องเอาไว้ในกลุ่ม ถึงแม้ภายหลังกลับมีคำสั่งสอนว่ามีคนรู้เรื่องนี้และมานะบากบั่นไล่ฆ่าพวกเขา
โดยสวมชุดเป็นตัวขำขันแล้วหลังจากนั้นก็เขียนนิยายออนไลน์ส่งให้พวกเขาอ่านในแต่ละตอน ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้ตั้งใจผิดแผกแตกต่างหนังสยองขวัญจนกว่าแปลงเป็นต้นแบบดาราสำคัญหลายแบบโดยเฉพาะตัวนำหญิงรุ่นใหม่ ซึ่งหัวข้อนี้ก็ก๊อปปี้เอามาใช้จนกระทั่งหมด แต่ขาดเสน่ห์ให้เอาใจช่วย แม้ว่าจะมีความวิริยะให้เรื่องมองดูสดใหม่ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วย อย่างการ Live สดของผู้ร้าย เว็บไซต์เขียนนิยายออนไลน์ แม้ว่าทั้งหมดก็ยังไม่ได้ทำให้เรื่องนี้สดใหม่อะไรก็ตามเลยแม้แต่น้อยนิด
แน่นอนว่าผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่ดูหนังแนวนี้ก็บางทีอาจทราบกันดีว่ามันเป็นหนังเกรดบี ใช้เค้าเรื่องเดิมๆแค่เพียงหาคนมาฆ่าเลวร้ายให้ผู้ชมแนวนี้ประทับใจก็จริง ซึ่งหลายๆเรื่องก็ย้ำนี้ล่ะทำเป็นดีแม้ว่าจะเป็นหนังเกรดบี killer book club พากย์ไทย แม้กระนั้นประเด็นนี้เป็นฉากสยองขวัญก็เดิมๆไม่มีฉากไหนเด่น แถมยังทำฉากฆ่าให้เช่นเดียวกันกับจินตนาการในนิยาย เป็นกระเป๋านบทในนิยายออนไลน์อ่านฉากการฆ่าไป
แต่ว่าเพียงพอไปถึงที่เกิดเหตุก็ไม่พบศพหรือมีร่องรอยใดๆนอกจากสีเขียนไว้ว่า to be continued (ในภาษาประเทศสเปน) แต่ว่าคนนั้นล่องหนไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งคำแก้ตัวในตอนแรกเป็น คนที่ตายบางครั้งก็อาจจะเป็นฆาตกรก็ได้ (หรือนางเอกหลอนไปเองก็ด้วย) แม้ว่าถัดไปฉากฆ่าแบบนี้ก็ยังมีตามมาอีกคนเป็นจำนวนมากมาย จนถึงข้างหลังๆเรื่องถึงมีคนเสียชีวิตจริงแบบแจ่มแจ้งว่ามีผู้ร้าย ซึ่งมันสเปะสะปะเยอะแยะกับการนำเสนออย่างงี้
ปัญหาหนักสุดเป็น ความสมเหตุผลของเรื่องราวน้อยมาก เหล่านักแสดงกลุ่มนี้ไปแจ้งตำรวจไม่ได้ก็จริง แม้กระนั้นตำรวจในเรื่องเองกลับไม่มีโผล่มาสอบปากคำอะไรก็ตามเลยตั้งแต่คดีแรกที่พวกนี้ฆ่าคนเสียชีวิตแล้ว ถึงแม้จุดเชื่อมโยงก็มี และนี่เป็นมหาวิทยาลัยที่จะควรจะมีกล้องวงจรปิดกันหมดอยู่แล้ว ส่วนเหยื่อที่หายไปตั้งแต่ตอนแรก มีคำอธิบายเพียงแต่ว่าติดต่อไม่ได้ แต่ไม่มีการตามหาติดต่อครอบครัวพวกเขาเลยสักนิด ซึ่งมันผิดวิสัยเพื่อนพ้องมากมายก่ายกอง และตัวเรื่องพยายามเล่ารวบรัดไวกระทั่งไม่เคยรู้ว่าเวลาผ่านไปกี่วันกันแน่ด้วย
สิ่งที่พอเพียงมีให้ดีได้หน่อยเดียวเป็นเหตุผลแรงผลักดันของฆาตกรที่มีความเชื่อมโยงเยอะแยะหน่อย แต่มันก็เกือบก๊อปปี้ไอเดีย Scream ภาคแรกมาเลย แม้ว่าจะมานะบากบั่นแจกแจงอะไรมากมาย แต่หัวข้อหลักเป็นกลางทางก็เลียนแบบมาชัดๆและยังทายใจได้ตั้งแต่ต้นด้วยสำหรับผู้ชมที่เคยชินกับหนังแนวนี้อยู่แล้ว และยังเพียรปูทางไปภาคกระทั่งได้อีก ซึ่งไม่น่าจะได้ทำต่อเพราะว่าสมรรถนะของบทต่ำเยอะมาก (แต่ถ้ายอดรับดูดีก็ไม่แน่เนื่องจากว่านี่เห็นผลงานของ Netflix โดยตรง)
สรุปเป็นหนังแนวสเแลชเชอร์ที่แย่มากตรงก็อปต้นฉบับมารวมกันโดยไม่มีเนื้อหาที่สดใหม่ใดๆก็ตามฉากฆ่าก็ธรรมดาและก็มีช่องโหว่มากจนเกินไปตลอดทั้งเรื่อง killer book club พากย์ไทย ตัวละครไม่มีเสน่ห์ไม่น่าจำแต่หากผู้ชมแนวนี้ต้องการมองดูเพียงแต่ฉากฆ่าก็ยังถือว่ามองผ่านๆได้ หากแม้ป้ายความผิดน่าจำบางทีก็อาจจะไม่มีขอรับ
รีวิวหนัง “The Burial ความเที่ยงธรรมที่ถูกฝัง” มาทรงเฉยๆแต่ว่าดุเด็ดเผ็ดมันในชั้นศาลอยู่นะ
ถ้าว่าคุณถูกใจดูหนังที่อิงมาจากสถานะการณ์จริง โดยยิ่งไปกว่านั้นหนังแนวเฉือนเฉือดต่อสู้ด้วยถ้อยคำและก็อารมณ์ที่จอแจในชั้นศาล “The Burial ความถูกต้องที่ถูกฝัง” คงจะจัดว่าเป็นเลิศในหนังที่คุณจำเป็นที่จะต้องไม่พลาด เพราะว่านี่เป็นอีกหนึ่งหนังที่จับเอาคดีในประวัติศาสตร์ในสังคมอเมริกันมาขึ้นหน้าจอ เพียงแค่รายนามดาราก็จำต้องเหลียวกันมามองดู กับเชิงชั้นสำหรับการแสวงหาร่องรอยเอามาแงะสู้กันที่รุนแรงพอได้เลย
ความชอบธรรมที่ถูกฝัง ได้รับแรงบันดลมาจากความจริงของคดีภาระคำสัญญาของแวดวงการเผาศพในอเมริกา พบเรไมห์ โอคีฟ เจ้าของธุรกิจการปลงศพที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ได้ตกลงใจว่าจ้างทนายผิวสี วิลลี มึงร์รี มาช่วยกู้เหตุการณ์ธุรกิจครอบครัว ประมือกับหน่วยงานยักษ์ใหญ่ที่บริหารเอาเปรียบบนความทุกข์ทรมานของคนอื่นๆ แปลงเป็นการต่อสู้ในชั้นศาลที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธมากและก็เสียงหัวเราะ ที่เอามาสู่ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของสังคมรวมทั้งเชื้อชาติที่อยู่ด้วยกัน
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของผู้กำกับหญิง “แม็กกี เบ็ตต์ส” ที่ยังคงย้ำสร้างภาพยนตร์ที่ปลุกแรงผลักดันให้กับผู้ชมอีกเหมือนเคย โดยคราวนี้คุณยังมีส่วนร่วมสำหรับการเขียนบทด้วย แล้วก็ถือว่าเป็นหนังเชิงการค้าเรื่องแรกๆในอาชีพของคุณภายหลังที่เคยสั่งสมประสบการณ์ทำหนังฟอร์มเล็กๆกับหนังสั้นมาบ้างเล็กน้อยในตอนสิบปีให้หลัง
ดังนี้ The Burial ความเที่ยงธรรมที่ถูกฝัง บางทีก็อาจจะเป็นดรามาข้อบังคับที่เกือบจะมิได้มีท่วงทีอะไรที่อยู่ในแง่ความแปลกใหม่ในตนเอง โหมดของการเล่าเรื่องแล้วก็เค้าเรื่องก็ออกจะใช้สูตรสำเร็จของหนังแนวๆนี้แบบเดิม กิมไม่กลูกเล่นต่างๆก็มิได้ประยุกต์ใช้เยอะอะไร มันเป็นการร้อยเรียงเรื่องไปแบบเรื่อยเป็นลำดับขั้นตอนที่จะต้องเป็น ซึ่งหากว่าคนใดกันแน่มิได้ถูกใจหนังแนวที่กล่าวมากและก็เต็มไปด้วยไต่ถามในชั้นศาล คุณอาจจะรู้สึกเบื่อแล้วก็ปิดหนีไปกลางทางได้
แต่ว่าในเมื่อพล็อตใส่เข้ามาแบบปกติอย่างนี้ ถือว่าโชคดีที่ The Burial ความถูกต้องที่ถูกฝัง มีความทรงอำนาจอยู่ที่องค์ประกอบในเรื่องราวของตนเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากว่าหนังประเด็นนี้แทรกสอดหัวข้อการฉ้อโกงโกง และก็ความอยุติธรรมที่ได้มีผลเสียต่อผู้คนค่อนข้างจะวงกว้าง โน่นก็เลยเป็นจุดซึ่งสามารถอิมแพคสตอปรี่ให้มีปฏิกิริยาต่อผู้ชมได้ในระดับที่ถูกใจ
รีวิวหนัง “The Conference สัมมนาเลือด” วิถีไล่ฆ่าฉบับสวีเดน ส่อเสียด..อรรถรสแสบสันต์!
เช่นเดียวกับ “ทอมมี ลี โจนส์” ที่มอบการแสดงแบบน้อยแต่มากในหนังเรื่องนี้อีกแล้ว แม้ว่าพาร์ทตัวละครของเขาแทบจะไม่มีอะไรโดดเด่นเลย รับบทเป็นเพียงแค่เหยื่อรายหนึ่ง แต่อินเนอร์ทางการแสดงของเขาทำให้ดูทรงพลังขึ้น และที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ “เจอร์นี สมอลเล็ตต์-เบลล์” ที่เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวละครที่ช่วยเบรกอารมณ์ได้ดี ไว้วางใจการแสดงของเธอคนนี้ได้เลย เพราะมักจะจ้างร้อยเล่นให้ล้านอยู่ในทุก ๆ ผลงานของเธอ
ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว The Burial ความยุติธรรมที่ถูกฝัง อาจจะยังไม่ใช่หนังดรามากฎหมายที่คมคายและเจนจัดอะไรถึงขนาดนั้น แต่มันเป็น 2 ชั่วโมงที่เราสามารถคล้อยตามไปตามตัวละครต่าง ๆ ในการเก็บข้อมูลและหาหนทางในการต่อสู้ในชั้นศาล มันอาจจะไม่ใช่หนังที่ดีเยี่ยมในทุก ๆ องค์ประกอบ หนังยังเต็มไปด้วยจุดบกพร่องค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกัน แต่อย่างน้อย ๆ เราก็ได้ดูการแสดงที่ดีที่ทีมนักแสดงที่คัดเลือกมาได้เจ๋ง นั่นจึงออกมาเป็นหนังกฎหมายที่สร้างแรงบันดาลใจให้ได้ไม่น้อย
วันศุกร์ 13 ตุลาคมกับบรรยากาศฟ้าปิดบ่อย ๆ แบบนี้ ไม่มีอะไรจะเหมาะไปกว่าการเสิร์ฟหนังเขย่าขวัญอีกแล้ว และก็ถึงคราวของหนังเลือดสาดเรื่องใหม่จากสวีเดน เตรียมมาปลดปล่อยความบ้าคลั่งใน “The Conference สัมมนาเลือด” หนังแนว Slasher ที่คอนเซ็ปต์กับกลิ่นอายอาจจะค่อนข้างคุ้นเคย แต่ปรับโหมดความโหดมาทางฝั่งยุโรปกับเนื้อหาที่น่าจะมัดใจคอหนังประเภทนี้ได้ไม่ยาก
เล่าเรื่องราวของข้าราชการประจำสำนักงานเทศบาลกลุ่มหนึ่งที่เดินทางมาจากพื้นที่และพื้นเพ เพื่อร่วมงานสัมมนาและเชื่อมสัมพันธ์กันนอกสถานที่ที่เหมือนจะเป็นพื้นที่ที่ไม่มีพิษภัยใด ๆ แต่พวกเขาต้องมาขับเคี่ยวกันเอาชีวิตตัวเองให้รอด พร้อมกับเผชิญหน้าฆาตกรปริศนาที่แสนกระหายเลือด จากการหารืองานราชการมาสู่การวางแผนหนีตายจากไอ้คลั่ง พวกเขาจะเหลือรอดไปได้สักกี่คน..?
หนังเรื่องนี้ดัดแปลงสร้างมาจากนิยายทริลเลอร์ขายดี ฝีมือการเขียนของ “แมตส์ สแตรนด์เบิร์ก” ที่ต้องยอมรับเลยว่าคอนเซ็ปต์เรื่องราวต้นฉบับของเขาค่อนข้างมีกิมมิกที่แสบสันต์ไม่น้อย Vic3Bet โดยเฉพาะเสน่ห์อารมณ์ตลกร้ายของเรื่องนี้ ที่สอดแทรกประเด็นเสียดสีชนชั้นสังคมได้อย่างแยบยล บนพื้นฐานความเขย่าขวัญและหนีตายจากภัยที่กำลังไล่ล่าถึงทุก ๆ ตัวละคร
โดยหนังเรื่องนี้ได้ “แพทริก เอ็คลุนด์” ผู้กำกับชาวสวีเดนที่มีผลงานทีวีซีรีส์ท้องถิ่นหลาย ๆ เรื่อง และถือว่าการคัมแบ็กกลับมาทำหนังยาวในรอบสิบปีของเขา พร้อมกับร่วมทำหน้าที่ดัดแปลงเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วย แม้ว่าหนังจะค่อนข้างใส่สูตรสำเร็จตามสไตล์หนังไล่ฆ่าแนว ๆ นี้ ที่ทำให้มีการปูปมตัวละครในช่วงแรกค่อนข้างนานพอสมควร น่าจะประมาณครึ่งเรื่องเลยก็ว่าได้
แต่แม้ว่าจะเป็นการปูทางที่ค่อนข้างยาวไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าหนังสามารถทำให้คนดูรู้จักและเข้าถึงลักษณะนิสัยของตัวละครหลักทุก ๆ ตัวได้อย่างคุ้นเคยยิ่งขึ้น นับว่าโชคดีที่แต่ละคาแรกเตอร์มีลักษณะที่โดดเด่นต่างกันไป แต่ละตัวละครเต็มไปด้วยมิติ รัก โลภ โกรธ เลว อันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ และนั่นทำให้คนดูได้ซึบซับความขยะแขยงของคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่