Vic3Bet เว็บคาสิโนออนไลน์อันดับ 1

dune ภาคแรก ข้างหลังรอมานาน ถึงเวลาเจอกับปฐมบทภาพยนตร์ไซไฟสุดยอดเยี่ยมที่ปรับเปลี่ยนจากนิยายขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าชื่อเดียวกันของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต กันแล้วล่ะ ‘Dune’ หนังที่ใช้ชื่อไทยแบบทับศัพท์ ‘มองน’ จากบทกวีเล่มครึ้ม เปลี่ยนมากลายเป็นภาพเคลื่อนไหวในภาคเริ่ม Dune จ่าหน้าตั้งแต่เริ่มเรื่องว่าเป็น “Part 1” ให้ผู้ชมทำใจล่วงหน้าว่า นี่เป็นเพียงแค่ปฐมบท หนังจะจบแบบครึ่งๆกลางๆเพราะว่า Dune Part 1 เป็นเพียงแค่ครึ่งแรกของหนังสือนวนิยายเล่มหนึ่งเพียงแค่นั้น โดยเล่าที่เกิดขึ้นในปี คริสต์ศักราช 10191 ซึ่งเป็นอนาคตอันไกลมาก รวมทั้งผู้คนแบ่งได้เป็นหลายกรุ๊ปอำนาจ

ประสบการณ์ส่วนตัวของผมที่มีต่อ ‘Dune’ ในฉบับของผู้กำกับเดวิด ลินช์ (David Lynch) คงจะหนีไม่พ้นคำว่าเหวอแตกแล้วก็ง่วงงุน ! แม้ว่าจะสารภาพว่าหนังฉบับปี 1984 ที่ประเทศไทยอุตส่าห์ตั้งชื่อว่า ‘สนามรบแรงวจักรวาล’ จะมีความทะยานอยากแล้วก็งานโปรดักชันที่มองไม่ไม่สวยเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการผลิตที่ยังไม่ก้าวหน้าเท่าตอนนี้ จนกระทั่งส่วนตัวเองก็เชื่อไปแล้วว่านิคุณยายประเด็นนี้ของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert) คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆรวมทั้งน่าจะเป็นยาขมไม่น้อยสำหรับผู้ใดกันที่คิดจะจับมาสร้างเป็นภาพยนตร์ แม้กระนั้นแล้วหลังจากนั้นก็มีคนลองดีจนได้ และก็การตลาดก็ปั้นหน้าหนังซะเปลี่ยนเป็นไซไฟเผชิญภัยเกินหน้าเกินตาความเซน (Zen) ของนิยายไปหลายช่วงตัวแม้กระนั้นในเมื่อมีชื่อของ เดอนีส วิลล์เนิฟว์ (Denis Villeneuve) ผู้กำกับชาวแคนาดาที่ความสามารถไม่ธรรมดาจับมาทำหนังอาจจะยากที่จะข่มใจไม่ให้ลองของกันอีกสักครั้ง

  • รอคอยกันมาร่วม 3 ปีสำหรับ ‘Dune: Part2’ ข้างหลังหนังภาคแรกออกฉายสิ้นปี 2021 ซึ่งจำต้องเห็นด้วยว่าความสามารถแล้วก็บารมีของ เดอนีส์ วีลเนิฟว์ (Denis Villeneuve) ทำให้งานนิยายไซไฟ-การบ้านการเมืองและก็แอบวิพากษ์ศาสนาของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert) ให้ออกมากมายลมกล่อมด้วยการ “เลือกเล่า” แม้กระนั้นอาจ “หัวใจ” ประเด็นการเมืองลัทธิอาณานิคมรวมทั้งมิติของศาสนาแล้วก็ความศรัทธาของฉบับนิยายเอาไว้ได้ออกจะบริบูรณ์

dune ภาคแรก

รีวิวหนัง dune ภาคแรก ปฐมบทการสู้รบบนปลาดาวทรายสไตล์วีลเนิฟว์

เสด็จบิดา Denis Villeneuve เป็นผู้กำกับเบอร์ต้นๆที่สมัย และก็เคยเข้าชิงออสการ์จากผลงานไซไฟ-ปรัชญาสุดล้ำอย่าง Arrival บันไดการบรรลุเป้าหมายตอนนั้นสานฝันในวัยเด็กของเขา โน่นเป็นการถือเอานิยายไซไฟสุดคลาสสิกของ Frank Herbert ที่พิมพ์ตั้งแต่ปี 1965 และไม่เคยไปถึงเป้าหมายสำหรับเพื่อการทำเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์เลยสักหนึ่งครั้ง มาสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ โดยใช้ทุนสร้างมากถึง 165 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา รวมทั้งลงทุนไปถ่ายทำในทะเลทรายจริงๆที่จอร์แดนและก็สหรัฐอเมริกา อาหรับ เอมิเรตส์ อันร้อนระอุ

  • รวมทั้งพวกเราก็ได้เวลาเป็นปรากฏชัดต่อสายตากับหนึ่งในโปรแกรมหนึ่งฟอร์มใหญ่รายปีนี้ที่มีคนจำนวนไม่น้อยรอคอยรอ กับมหากาพย์ไซไฟที่นับมาปัดฝุ่นสร้างใหม่อีกรอบใน “Dune” ที่ปรับเปลี่ยนมาจากนิยายภาพเริ่มแรกของ “แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต” ที่เคยถูกผลิตเป็นหนังมาแล้วในปี 1984 ที่ค่อนข้างจะเป็นแถวหนังคัลท์ไซไฟไปสักนิด กลับมาตอนนี้ด้วยเทคโนโลยีภาพยนตร์ที่ล้ำยุคขึ้น ก็เลยทำให้งานสร้างต่างๆได้ถูกยกฐานะเจริญขึ้นอีกเป็นกอง รวมทั้งจัดว่ายิ่งใหญ่สมราคาคุยอยู่

ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ‘Dune’ ไม่ใช่งานง่ายๆที่คนไหนกันแน่จะเอามาสร้างภาพยนตร์ดีๆได้แต่ว่าก็ด้วยแพชชันของเดอนีส์ วิลล์เนิฟว์ที่เป็นแฟนนิยายมาตลอดชาติ แล้วก็สำหรับบทหนังวิลล์เนิฟว์ร่วมเขียนกับอีริค รอคอยธ (Eric Roth) มือเขียนบทระดับตำนานจาก ‘Forrest Gump’ แล้วก็ จอห์น สเปตส์ (Jon Spaihts) ผู้เขียนบทหนังไซไฟมือแม่นจาก ‘Prometheus’ มารังสรรค์บทหนังโดยปรับเปลี่ยนจากนิยายเล่มแรกแต่ว่าจะเล่าเพียงแค่ครึ่งเดียวแค่นั้นในหนังภาคนี้

แม้กระนั้นถึงจะกำหนดว่าหนังจากนิยายเล่มแรกจะแบ่งเป็น 2 ภาคแล้วก็หนังหัวข้อนี้ dune ภาคแรก เป็นเรื่องราวเพียงแค่ครึ่งแรกแค่นั้นแม้กระนั้นรายละเอียดแล้วก็หัวใจของเรื่องราวกลับถูกเก็บได้ครบอีกทั้งเกมการบ้านการเมืองเลอะเทอะ อำนาจผู้ลงทุนไปจนกระทั่งส่วนประกอบของความเป็นไซไฟที่เชื่อมโยงรายละเอียดแฟนตาซีฝันลมๆแล้งๆกับปัญหาความแตกต่างในโลกใบนี้ตามเจตนารมย์ของแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ตได้ไม่มีตกหล่นแล้วก็วิลเนิฟว์ยังสามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้พอดีรวมทั้งมองสนุกสนานเกินคาด

รีวิวหนัง Dune มหากาพย์ลิเกไซไฟโรงใหญ่ ที่ต้องการรีเควสให้ออกสารานุกรมสักเล่ม

  • เรื่องเริ่มจากจักรวรรดิบัญชาการให้ Duke Leto (Oscar Isaac จาก Star Wars) ที่เครือญาติ Atreides ไปดูแล Arrakis ดาวที่เป็นดินแดนที่ทะเลทราย แต่ว่าก็เป็นอีกทั้งแหล่งทรัพยากรที่ล้ำค่าอย่าง “Spice” ทั้งยังเป็นบ้านของมวลชน Fremen ซึ่งนำโดย Stilgar (Javier Bardem จาก No Country for Old Men) และก็ “หนอนทะเลทราย”

ครอบครัวของ Duke เช่น Lady Jessica (Rebecca Ferguson จาก Mission: Impossible) รวมทั้งผู้สืบสกุลผู้เดียว Paul (Timothée Chalamet จาก Call Me by Your Name) พร้อมทหารคนสนิทสนมอย่าง Gurney Halleck (Josh Brolin จาก Avengers), Duncan Idaho (Jason Momoa จาก Aquaman), Thufir Hawat (Stephen McKinley Henderson จาก Fences), รวมทั้งแพทย์ Yueh (Chen Chang จาก Crouching Tiger, Hidden Dragon) ก็เลยจำต้องย้ายบ้านรวมทั้งกองทัพไปดาวดวงใหม่

dune ภาคแรก

Dune เล่า พอล อะเทรดิส อัจฉริยะชายหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ที่เกิดมาพร้อมชะตากรรมอันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะเข้าดวงใจ

เขาจำเป็นต้องเดินทางไปยังดาวนพเคราะห์ที่อันตรายที่สุดในจักรวาลเพื่อความมีชีวิตรอดรวมทั้งอนาคตของครอบครัวรวมทั้งผู้คนของเขา ข้างหลังถูกรุกรานโดยกองกำลังคนร้ายเอาแต่ได้เป้าหมายฉกชิงทรัพยากรที่ล้ำค่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ที่สามารถใช้ดึงสมรรถนะที่หลบซ่อนเร้นของมนุษยชาติออกมาได้ และก็มีเพียงแค่คนที่สามารถเอาชนะความหวาดกลัวได้แค่นั้นที่จะอยู่รอดในศึกคราวนี้

  • พวกเราจำเป็นจะต้องคอยไปกระทั่งจะสิ้นเดือนนี้ Vic3Bet กว่าจะได้พิสูจน์ความยอดเยี่ยมของภาคต่อหนังมหากาพย์ไซไฟ “Dune: Part 2” ที่จะมาบรรเลงเพลงเสี่ยงอันตรายสุดอลังการอีกที ด้วยผลงานของผู้กำกับ “เดอนี วีลเนิฟว์” คนเดิม ที่ผลิตขึ้นจากผลงานมาสเตอร์พีชของ แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต ที่่ปัจจุบันมีนักวิภาควิจารณ์กรุ๊ปแรกๆของโลกได้ได้โอกาสดูหนังหัวข้อนี้แล้ว กับฟีดหามในพื้นฐานเกี่ยวกับหนังประเด็นนี้ออกมา ต่างเชิดชูให้เป็นที่สุดของหนังไซไฟที่สมัย

สำหรับ ‘Dune Part2’ หนังจะดำเนินเรื่องสม่ำเสมอจากหนังภาคแรกเป็นเมื่อ พอล อะเทรดิส (เล่นบทโดย ทิโมธี ชาลาเมต์, Timothée Chalamet) ได้ตกลงใจร่วมเดินทางไปกับเหล่าเฟรเมน โดยมีหมุดซึ่งก็คือการชำระแค้น บารอน ฮาร์คอนเนน (สวมบทบาทโดย สเตแลน สการ์สการ์ด, Stellan Skarsgård) รวมทั้งล้มพระราชาธิราช (สวมบทโดย คริสโตเฟอร์ วอลเคน, Christopher Walken) ซึ่งข้างศัตรูเองก็ได้จัดแจง เฟย์ด-รอคอยว์ธา (เล่นบทโดย ออสติน บัตเลอร์, Austin Butler) มือสังหารจิตวิปริตที่ฮาร์คอนเนนตระเตรียมไว้ตกทอดตำแหน่งของเขาไว้ประมือกับ พอล อะเทรดิส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ยิ่งไปกว่านี้หนังยังขายความตระการตา (Spectacular) ของงานวิชวลได้อย่างประดิษฐ์รวมทั้งน่าประทับใจซึ่งแทนที่จะเอาคอมพิวเตอร์สร้างรมันเสียทุกสิ่ง แต่งานออกแบบแบบสัมผัสได้ (Practical) ตั้งแต่รูปร่างหน้าตาสไตล์การแต่งตัวไปกระทั่งถึงการออกแบบงานสร้างสุดประณีตพิศดารหลากวัฒนธรรมประสมประสานทั้งยังเสื้อผ้าแบบอาหรับ ชุด งานพิธีแล้วก็สถาปัตยกรรมแบบอิสลามต่างหากที่ทำให้ ‘Dune’ ฉบับนี้เต็มไปด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์แล้วก็บางทีอาจเป็นต้นแบบให้กำเนิดงานวางแบบแบบพหุวัฒนธรรมถัดไปได้ไม่รู้จักจบสิ้น

รวมทั้งด้วยความสามารถการใช้แรงงานวิชวลเล่าอย่างชำนิชำนาญ ตอนนี้วิลล์เนิฟว์เลือกเอากล้องถ่ายภาพ อเล็กซาไอแมกซ์ (Alexa Imax) มาถ่ายทอดอีกทั้งความกว้างใหญ่ของทะเลทรายและก็ความวายวอดของการสู้รบเลยสนับสนุนให้งานภาพของหนังไปไกลกว่าเพียงแค่งานฟาดศีรษะเข้าบ้านกระทั่งทำให้กลุ่มคำ “See It In IMAX” ไม่น่าเกินเลยสำหรับ ‘Dune’ แม้แต่น้อย dune ภาคแรก เพราะว่ามันไม่เพียงแค่สร้างความกว้างใหญ่ให้ภาพบนหน้าจอแบบไม่มีความหมายแต่ว่ายังผลักดันรวมทั้งขับเน้นย้ำพลังของงานภาพแล้วก็เรื่องราวได้ทรงประสิทธิภาพมากมายๆ มันเกิดเรื่องที่เกิดขึ้นในอนาคตราวปี 10,191 ที่จักรวาลถูกดูแลโดยองค์จักรพัตราธิราชที่แผ่กระจายพระราชอำนาจไปทั่ว และก็นี่เป็น การฟาดฟันกันระหว่างสองเชื้อสายใหญ่ อะเทรดิส (Atreides) รวมทั้ง ฮาร์คอนเนน (Harkonnen)

  • พอล อะเทความยินดีส (Timothée Chalamet จากหนัง ‘Lady Bird’ และก็ ‘Call Me by Your Name’)

ชายหนุ่มที่เป็นลูกของดยุคเลโท (Oscar Isaac จากหนัง ‘Star Wars: Episode IX’ และก็ ‘Annihilation’) และก็เลดี้เจสสิกา (Rebecca Ferguson จากหนัง ‘Doctor Sleep’ แล้วก็ ‘Mission: Impossible – Fallout’) เขาเป็นผู้สืบสกุลของเครือญาติใหญ่ ภายใต้การปกครองของจักรพัตราธิราช เมื่อเครือญาตินี้ได้รับโองการที่ตั้งและก็ส่งพวกเขาไปถือครองดาวพระเคราะห์ทะเลทรายนาม อาร์ราคิส (Arrakis)

นื้อหาของ Dune อยู่ในสมัยที่ไกลกว่าตอนนี้ตรงเวลานับหมื่นปี เทคโนโลยีเดินทางในอวกาศได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนอาศัยอยู่ตามดวงดาวต่างๆในจักรวาล และก็ทั้งสิ้นนั้นก็อยู่ภายใต้การปกครองแบบจักรวรรดิ เรื่องเริ่มที่ พอล อะเทความชอบใจส จะต้องออกมาจากดาวค้างลาดานถิ่นฐานบ้านช่องด้วยเหตุผลที่พระราชาธิราชพาดิชามีบัญชาการให้บิดาของพอล ดยุคเลโท อะเทความชอบใจส ไปดูแลอาร์ราคิส (มองน) ดวงดาวทะเลทรายที่เต็มไปด้วยสไปซ์ (Spice) ทรัพยากรที่มีมูลค่าสุดในจักรวาล แต่ว่าการเดินทางคราวนี้เป็นดังดักที่เครือญาติฮาร์คอนเนน ศัตรูคู่กรณีของเชื้อสายอะเทความชอบใจสวางเอาไว้

dune ภาคแรก

พอล อะเทรติส จะต้องเสี่ยงอันตรายแล้วก็เอาชีวิตรอดท่ามกลางแผนร้าย

การฉกฉวยอำนาจเพื่อครองทรัพยากร และก็การบ้านการเมืองระหว่างหน่วยงานใหญ่ ทั้งยังจากที่ประชุมแลนด์สราดที่เป็นกุญแจสำคัญสู่การปกครอง บริษัทโชมคอมพานีที่ควบคุมการค้าขาย สหพันธรัฐอวกาศที่ผูกขาดการเดินทางผ่านดวงดาว และก็สำนักเบนี เจสเซอริต ที่มีความจำเป็นในทางศาสนา ความเกี่ยวพันที่สลับซับซ้อนไปจนกระทั่งส่วนประกอบในเรื่องเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ Dune มีคู่รักคลับอย่างแน่นแฟ้นมาจนถึงทุกวันนี้

จอร์แดน ฟาร์ลีย์ ผู้เขียนและก็นักวิพากษ์วิจารณ์จาก Total Film ได้โพสต์ว่า “Dune: Part 2 มันจึ้งมากทุกคน มันน่าละลานตา ชักชวนประทับใจ และก็สะเทือนอารมณ์มากยิ่งกว่าในภาคแรก มีความแหลมคมคายแล้วก็ชัดแจ้งเพิ่มขึ้น ฉากแอคชันชักชวนอัศจรรย์ใจมากมายๆสำหรับผมหนังหัวข้อนี้ใกล้เคียงกับระดับคุณความดีของ The Lord of the Rings ในเวอร์ชันที่เชิญชวนขนลุก”

ในเวลาที่ สก็อต เมนเดลสัน คอลัมนิสต์จาก Puck News กล่าวว่า “Dune: Part 2 เป็นงานหนังที่เป็นชัยในทางงานภาพและก็งานเสียง เสมอกันกับ John Wick 4 หรือ Avatar: The Way of Water เคยทำไว้ การแสดงค่อนข้างจะอดทน จังหวะฉากแอคชันที่ปังมากมาย แต่ว่าก็เหมือนกับภาคแรก dune ภาคแรก มันเป็นหนังที่ยาว 2 ชั่วโมงกว่าๆทำให้เรื่องราวจะปฏิบัติหน้าที่ได้ 90 นาที ที่เหลือก็คือจ็อกกิ้งไปเรื่อยจนถึงไปถึงไคลแม็กซ์”

จุดกำเนิดเรื่องราวของ ‘Dune’ เป็น”สไปซ์”ทรัพยากรมีคุณค่าที่ดาวอาร์มลทินสที่เดิมจักรพรรดิ์พาดิชาห์เคยให้เครือญาติฮาร์คอนเนนดูแลรวมทั้งปฏิบัติภารกิจสกัดสไปซ์ส่งออกให้ผู้กุมอำนาจ แต่ว่าแล้ววันดีคืนดีจักรพรรดิ์ก็มอบหมายให้เชื้อสายอเทความชอบใจส อันสูงส่งเดินทางไปดูแลหัวเมืองอย่างอาร์มลทินสและก็ผลิตสไปซ์ป้อนเข้าศูนย์กลาง แม้กระนั้นตามที่เป็นจริงแล้วมันเป็นแผนของจักรพรรดิ์ที่อยากได้รวบอำนาจแล้วก็จัดการกับคู่แข่งทางด้านการเมืองอย่าง เลโท อเทความชอบใจส (สวมบทโดยออสการ์ ไอแซค Oscar Isaac) รวมทั้งเหล่าฟรีเมนผู้ครอบครองทะเลทรายที่อาร์ความมัวหมองสให้หมดสิ้น

โดยความมุ่งมาดเดียวของดาวอาร์ราคินสฝากไว้ที่ พอล อเทความชอบใจส (คราวโมธี ชาลาเมต์ Timothée Chalamet) ลูกของเลโทที่ถูกฝึกฝนให้ใช้วิชาที่เสียงจาก เจสสิกา อเทความชอบใจส (รีเบคกา เฟอร์กูสัน Rebecca Ferguson) สนมเอกของเลโทรวมทั้งแม่ของพอลที่ตกทอดลัทธิเกสเซอริต กลุ่มผู้หญิงทรงประสิทธิภาพรอชักใยความเป็นไปทางด้านการเมืองโดยอาศัยมนตร์ดำ แล้วก็โดยปริยายที่พอลจะเปลี่ยนเป็นผู้ได้รับเลือกที่ชาวฟรีเมนเชื่อมาตลอด แม้กระนั้นมหาศึกคราวนี้ไม่่ง่ายแล้วก็ยิ่งโหดเหี้ยมหินเมื่อ บารอนวลาดิภรรยาร์ ฮาร์คอนเนน (สเตลลาน สการ์สการ์ด Stellan Skarsgard) แล้วก็กองทัพจ้องมองขยี้กองทัพของอเทรติสแล้วก็ยึดอาร์มลทินสด้วยความทารุณไร้มนุษยธรรม