โรงงานผลิต ครีม
โรงงานผลิต ครีม เป็นโรงงานรับผลิตครีมแบบครบวงจร โรงงาน Kovic รับผลิตรีมเยอะมากๆหลายประเภท ทั้งครีมบำรุงผิวกายและผิวหน้า อย่างครีมหน้าใส ครีมลดฝ้า ครีมกันแดด เป็นต้น อีกทั้งที่บริการรับผลิตสินค้าอื่นๆ ยกเช่น สินค้าอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร สบู่ เครื่องดื่ม ที่คอยบริการคุณอย่างครบวัฏจักร แบบ One Stop Service
ช่วยทั้งกระบวนการทำสูตร การสร้างและจัดทำขึ้น การขอ อย. ไปจนกระทั่งการทำการตลาดออนไลน์และประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ ที่มีกูรูคอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ทำให้ท่านไว้ไว้ใจได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ของคุณจะออกมามีประสิทธิภาพทุกชิ้น
เทคนิคบำรุงผิวที่คนผิวแพ้ไม่ยากควรจะทราบ
จะว่าไปผิวแพ้ง่าย ก็ดูเหมือนกับว่าเป็นประเภทผิวที่พวกเราควบคุมได้ยาก โรงงานผลิตครีม ใช้อะไรนิดอะไรหน่อยก็แพ้ขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย เลย แต่พวกเราต้องการกล่าวว่า จริงๆ เราสามารถสั่งงานอาการผิวแพ้ง่าย ไม่ให้ระคายเคืองยิ่งกว่าเดิมได้นะ
1. หลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีกรดแรงๆ
พยายามสอดส่องว่า ถ้าดวงตาเราสัมผัสกับหยดน้ำส้มเราจะรู้สึกแสบตา นั่นเป็นเนื่องมาจากว่า ส้มมีความเป็นกรดค่ะ นั่นนับว่าสกินแคร์ที่สกัดมาจากวิตามินซีก็มีความเป็นกรดอยู่เหมือนกัน สิ่งนี้จะเข้าไปกัดผิว ส่งผลให้ผิวพวกเราแสบยิบๆ ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวิตามินซีทุกตัวจะใช้มิได้นะคะ แต่อยากให้หลบหลีกวิตามินซีที่มีความระคายเคืองต่ำมาใช้แทน ได้แก่ Ascorbyl Tetraisopalmitate วิตามินซีที่อยู่ด้านในเวอร์ชั่นอ่อนโยน ไม่มีความระคายเคือง และซึมซาบไปสู่ผิวได้เร็วทันใจมาก นอกจากนี้ โรงงานผลิต ครีม หมวดหมู่กรดที่ใช้ในที่สครับผิว ก็ต้องระวังด้วยค่ะ เพราะเหตุว่าอาจทำให้คนผิวแพ้ไม่ยากผิวระคายเคืองยิ่งยิ่งขึ้นได้
2. หลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีส่วนที่นำมาผสมกันของสารระคายเคือง
สิ่งที่ไม่ถูกกับผิวแพ้ไม่ยาก รวมถึงผิวจำพวกอื่นๆ ด้วยก็คือ สารระคายเคืองค่ะ ถ้าผิวพวกเราไปโดนส่วนที่นำมาคลุกเคล้าเหล่านี้ จะยิ่งนำมาซึ่งการทำให้ผิวเราแพ้ง่ายยิ่งกว่าเดิม เกิดอาการแพ้ ผื่นแดง ที่ส่งผลให้พวกเราจำเป็นที่จะต้องตามมารักษาที่หลัง ถ้าไม่อยากให้เกิดสถานะการณ์เช่นนี้ พวกเราควรเลี่ยงส่วนผสมดังเช่นว่า น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน สีสังเคราะห์ และสารหมู่ซัลเฟต (SLS, SLES) ฯลฯค่ะ
3. หลบหลีกอาหารที่ส่งผลให้ผิวอักเสบได้ไม่ยาก
อาหารก็เป็นสิ่งนี้ที่ทั้งช่วยให้ผิวสวย และผิวเสียได้ ในกรณีของคนผิวแพ้ไม่ยาก อาหารที่ต้องระวังเลยก็คือ พวกอาหารที่ทำจากนม อาหารที่มีความหวาน น้ำตาลสูง เนื่องจากว่าอาหารกลุ่มนี้จะทำให้ผิวหนังมีการอักเสบได้ค่ะ หรืออาจส่งผลให้ผิวเป็นผื่น แพ้แดง แพ้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าเดิมได้ แต่หากจำเป็นจะต้องทานอาหารเหล่านี้เราชี้แนะให้บรรจุอาหารที่ต้านการอักเสบเข้าไปเป็นต้นว่า ข้าวโอ๊ตจ้ะ
4. ใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมบางส่วนอย่าง
ยิ่งมีส่วนที่นำมารวมกันมาก ก็ยิ่งส่งผลให้ผิวพวกเราเสี่ยงต่อการเกิดอาการระคายเคือง โรงงานผลิต ครีม ตามที่เคยใช้สกินแคร์ที่มีส่วนที่นำมาผสมกันถึง 35 อย่าง บางครั้งก็อาจจะลดลงมาสักครั้งหนึ่งก็ได้เหมือนกันค่ะ เพื่อที่จะไม่ให้ผิวเราจะต้องรู้สึกกับส่วนที่นำมาผสมกันอะไรเยอะมาก ที่พวกเราไม่รู้ดีว่า หนึ่งในนั้นจะก่อให้ผิวพวกเราแพ้หรือไม่ ทางที่ดีเลือกแบบปกติ ส่วนที่นำมารวมกันเล็กน้อยๆ แต่สำเร็จเหนือกว่าค่ะ
5. หมั่นบำรุงผิวให้แข็งแรงอยู่ตลอด
ผิวแพ้ไม่ยาก มักมีต้นเหตุที่เกิดจากสาต้นเหตุที่เกราะป้องกันผิว หรือ Skin Barrier พวกเราอ่อนแอลง ทำให้มีรอยรั่วตามผิว สิ่งเปรอะเปื้อน สิ่งแปลกปลอมเข้าผิวง่าย แถมผิวก็ล็อกความชุ่มชื้นได้เลวร้าย นำมาซึ่งการทำให้ผิวเราแพ้ไม่ยาก ไหวต่อสิ่งเร้าเข้าไปอีก เคล็ดวิธีแก้ก็คือ ควรที่จะใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยรู้สึกตัวฟูบำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้นอย่าง Epidermist 4.0 คือ ที่จะก่อให้ผิวเราแข็งแรงขึ้น ลดความไวต่อสิ่งกระตุ้น ช่วยจัดการกับปัญหาผิวแพ้ไม่ยากได้ค่ะ
แนวทางการทาครีมบนรูปพรรณ อย่างถูกแนวทาง เพื่อจะการบำรุงอย่างเป็นผล
สาวๆ จ๋า นอกจากการดูแลใบหน้าตนเองให้เกิดความสวยงามใสด้วยอาหารการกิน การพักและการออกกำลังกายแล้วนั้น สิ่งสำคัญที่จะเผลอมิได้เลยคือการทาครีมบำรุงผิว ซึ่งในวันนี้พวกเรามีกลเม็ดเคล็ดลับการทาครีมบำรุงผิวอย่างถูกเทคนิคเพื่อเสริมให้ออร่าความงดงามเปล่งประกายมากขึ้นมาเสนอแนะค่ะ ทำแล้วได้อย่างไรนั้น ตามมาดูกันเลยจ้ะ
1.ความสะอาดบนผิวหน้าเป็นสิ่งสำคัญ
ควรจะล้างและทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดทุกครั้ง และอย่าเพลินนะคะว่าต้องใช้ผ้าเนื้อนุ่มและสะอาดค่อยๆ ซับผิวหน้าให้แห้ง อย่าเช็ดถูด้วยความรุนแรงเนื่องจากว่าการเสียดสีจะทำให้ผิวหน้ากำเนิดริ้วรอยก่อนวัยได้
2.จำนวนของครีมจึงควรพอเหมาะ
ปริมาณของครีมที่ใช้ในแต่ละครั้งจึงควรพอเหมาะพอดี คร่าวๆ 1 ข้อนิ้วมือถือได้ว่าเพียงพอและเหมาะสมต่อความต้องการของผิวบทบาทสุด เนื่องจากหากใช้บางส่วนเกินไปอาจจะไม่เป็นผล แต่ถ้าใช้มากจนเกินไปก็นำมาซึ่งการทำให้ใช้จ่ายมากเกินไปโดยใช่ปัจจัยเท่านั้นยังไม่พอยังกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดความมันบนหน้าตาได้ด้วยค่ะ
3.แต้มครีมเฉพาะ 5 จุดบนใบหน้า
โดย 5 จุดบนใบหน้าที่เราควรจะแต้มครีมก็ได้แก่ หน้าผาก จมูก แก้มทั้งสองข้างและคางนะคะ แต้มแต่ละจุดในจำนวนที่เท่ากัน แต่อาจจะจะมุ่งเน้นมากหน่อยในรอบๆพื้นที่ผิวที่มากยิ่งกว่าส่วนอื่นๆ คือรอบๆแก้มทั้งสองข้าง
4.ทาครีมอย่างช้าๆ ให้ถ้วนทั่ว
โดยวิธีการใช้ปลายนิ้วกลางและนิ้วนางทั้งสองค่อยๆ เกลี่ยเนื้อครีมอย่างเบามือ เพราะเหตุว่าผิวหน้าของเรานั้นคอนข้างบอบบาง ถ้าลงน้ำหนักมากออาจจะเป็นการสร้างและจัดทำขึ้นริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยให้กำเนิดบนเค้าหน้าได้ การเกลี่ยครีมเริ่มจากรอบๆที่กว้างขวางอย่างโหนกแก้มทั้งคู่ข้าง ให้เกลี่ยเริ่มต้นจากส่วนกลางออกไปยังส่วนข้างๆ ต่อจากนั้นเกลี่ยไล่ตามแนวสันจมูก ใต้โพรงจมูกแล้วลงมายังคางและหน้าผาก อย่าเพลินเว้นรอบๆรอบดวงตาซึ่งควรที่จะใช้อายครีมสำหรับเพื่อการบำรุงนะคะ
5.อย่ามัวหลงลืมปลดปล่อยให้รอบดวงตาหม่นหมองคล้ำ
โดยวิธีใช้เนื้อครีมราวๆ 1 เมล็ดถั่วเขียวนะคะ และควรจะใช้ปลายนิ้วนางเพียงแค่นั้นสำหรับการเกลี่ยครีมโดยลงน้ำหนักอย่างเบามือให้จำนวนเยอะที่สุด เริ่มต้นจากการทาครีมไล่ไปตามแนวโครงกระดูกเบ้าตาจะเริ่มต้นทาที่หัวตาหรือหางตาก่อนก็ได้เหมือนกัน ข้างหลังแล้วหลังจากนั้นค่อยๆ วนลูบไล้เนื้อครีมไปบริเวณ ดวงตา และควรทาวนไปในทิศทางเดียวกันทั้งสองข้างนะคะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ การทาครีมที่เราทำกันอยู่ภายในประจำวันนี้ถูกต้องตามแนวทางที่กล่าวมาข้างต้นมั๊ย หากไม่น่าจะใช่ ทดสอบปรับเปลี่ยนและตั้งใจเสริมเติมรายละเอียดชมสักนิดนะคะ เพื่อจะให้ครีมที่เราใช้เกิดสมรรถนะและให้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างสูงสุดกับผิวของเราอย่างแท้จริง
สลิปปิ้งมาส์ก คืออะไร ใช้เช่นไรให้หน้าใส
สลีปปิ้งมาส์ก เป็นยังไง
สลีปปิ้งมาส์ก คือ คือมาส์กประเภทหนึ่งที่ผลิตออกมาเสมือน เซรั่มประการหนึ่ง แต่มีการใช้งานที่ต่างกัน โดย Sleeping Mask จะมีแบบที่มาส์กแล้วจำเป็นที่จะต้องล้างออกกับแบบที่ไม่ต้องล้างออก บางตัวสามารถมาส์กไว้ข้ามคืนได้ทันที มาส์กแต่ละแบรนด์มีความเข้นข้นที่ต่างกันออกไป บางชนิดก็เลยไม่บอกต่อให้มาส์กประจำวันแต่ให้ใช้เพียงอาทิตย์ละ 2 – 3 ครั้งแค่นั้น นอกเสียจากว่าเป็นสูตรอ่อนโยนที่ให้ใช้แต่ละวันได้ ก่อนใช้งานควรตรวจตราให้ดีว่ามาส์กของคุณมีการใช้งานแบบไหน เนื่องจากหากมาส์กหลายครั้งเกินความจำเป็นก็คงส่งผลข้างเคียงได้
แนวทางทําให้หน้าใสอีกหนึ่งเคล็ดลับคือ การเลือก Sleeping Mask ควรจะเลือกให้ดิ่งกับความรู้สึกที่อยากได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าควรจะเป็นให้หน้าสว่างกระจ่างใสควรจะเลือกสูตรหน้าใส แต่หากต้องการเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวดูสุขภาพดี ก็ควรจะเลือกสูตรปลอบประโลมผิวเนื่องด้วยจะช่วยปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวชมมีสุขรูปดีและผิวขาวใส เป็นเคล็ดลับหน้าใสที่ใช้ได้ทั้งผู้ชายและเพศหญิง ส่วนวิธีการใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก ใช้ทาได้เหมือน ครีมหน้าขาวใส หรือ เซรั่มหน้าใส แบบทั่วๆไปโดยไม่จะต้องล้างออก แต่หากเป็นสูตรที่จำเป็นจะต้องล้างออกควรมาส์กตามเวลาที่เจาะจงไว้เพื่อที่จะความสามารถในการมาส์กที่ดี
การมาส์กหน้าเป็นการดูแลผิวหน้าที่นิยมในยุคนี้ โดยยิ่งไปกว่านั้น Sleeping Mask ที่มาส์กทิ้งไว้ข้ามคืนได้โดยไม่จึงควรล้างออกเหมือนกันกับการทา ครีมหน้าใส ครีมหน้าสว่าง หรือ ครีมผิวขาว ส่งผลให้คนจำนวนไม่น้อยจับใจและหันมาคัดเลือกใช้กันเพิ่มขึ้นเพราะเหตุว่าทรงอิทธิพลิตออกมาหลากหลายสูตร ความพิเศษของ Sleeping Mask คือ ช่วยปรับสภาวะผิวให้มีสุขรูปดีทั้งภายในและด้านนอก ช่วยเพิ่มอีกความชื้นให้แก่ผิว ช่วยทำให้ผิวชมอิ่มน้ำและแจ่มแจ้งใส
เกล็ดความเข้าใจส่วนประกอบในเครื่องสำอาง
มาทำความรู้จักกับคำศัพท์ควรจะทราบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง และสารเคมีต่างๆ ที่มักผสมอยู่ภายในเครื่องสำอาง เพื่อที่จะสำหรับการเลือกเฟ้นซื้อเครื่องสำอางครั้งถัดมาของคุณ จะได้มีข้อพินิจและเลือกเครื่องสำอางที่ตรงกับความรู้สึกที่อยากได้จริงๆ
สารเคมีที่มักพบในเครื่องสำอาง
สารเคมีทั่วไป
Lanolin : ลาโนลิน สารสกัดที่ได้จากธรรมชาติ ให้ความชื้นแก่ผิว คุ้มครองป้องกันการแห้งตึง แต่การศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยบางชิ้นพบว่าอาจนำไปสู่การระคายเคือง และเป็นต้นเหตุหนึ่งของการอุดตัน และการก่อตัวของสิว
Mineral Oil : มิเนอรัลออยล์ ได้ผลผลิตที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ใช้เป็นสารทำความหล่อลื่นในเครื่องสำอาง เผชิญได้ในโลชั่น มอยเหน้าจอร์ไรเซอร์ ครีมล้างหน้า อายครีม เป็นต้น ซึ่งมีโมเลกุลค่อนข้างจะใหญ่ ก็เลยไม่สามารถที่จะซึมลงไปใต้ผิวหนังอย่างที่เคยคิดกัน แม้ว่าจะไม่ก่อให้เกิดโทษร้ายแรงแต่ก็ไม่มีสาระต่อผิว
Glycerin : กลีเซอรีน เป็นสารที่มีต้นเหตุมาจากการเติมด่างลงไปในไขมัน ใช้มากสำหรับเพื่อการทำสบู่ และเครื่องสำอางที่มีคุณลักษณะช่วยเสริมเติมความชุ่มชื้นให้ผิว รวมทั้งน้ำยาบ้วนปากและยาสีฟัน โดยได้รับการพิสูจน์ว่าไม่มีอันตราย ไม่นำมาซึ่งการทำให้ระคายเคือง
Propylene Glycol : โพรไพลีน ไกลคอล นิยมใช้กันมากในเครื่องสำอางดูแลผิวที่ต้องการคุณลักษณะกักเก็บความชุ่มชื้นและซึมผ่านเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ดิบได้ดี ไม่มีอันตรายต่อผิว
Dimethicone : ไดเมธิโคน คือน้ำมันซิลิโคนชนิดหนึ่ง ใช้เป็นเบสของผลิตภัณฑ์ที่มีหน้าตาเป็นครีมต่างๆ ปลอดภัยต่อผิว
Polysorbate : โพลีซอร์เบต พบได้มากในเครื่องสำอางที่มีส่วนที่นำมาคลุกเคล้าของน้ำมันหอมระเหย เพราะเป็นสื่อผสมให้น้ำสามารถเข้ากับน้ำมันหอมระเหยได้ ค่อนข้างไม่มีอันตรายต่อคน
Cocamidopropyl Betaine : โคคามิโดโพรพิล บีเทน เป็นสารที่ได้จากน้ำมันมะพร้าว มักใช้ผสมในสินค้าทำความสะอาดต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น สบู่ แดูพู คอนดิชั่นเนอร์ หรือโฟมล้างหน้า ช่วยสำหรับในการลดแรงตึงผิวของน้ำและทำให้มีการเกิดฟอง แต่ถ้าใช้ในปริมาณมากเกินความจำเป็นคงจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้
Butylene Glycol : บิวไทลีน ไกลคอล เป็นสารที่ปฏิบัติหน้าที่เก็บกักความชุ่มชื้น รักษากลิ่นและความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ให้คงจะรูป มักเป็นส่วนที่นำมาคลุกเคล้าของโลชั่นต่างๆ ไม่มีอันตรายต่อผิว
Phenoxyethanol : ฟีน็อกซ์ซีธานอล ประสบได้ในเครื่องสำอางที่มีน้ำหอมผสมอยู่ เพราะเหตุว่ามีคุณสมบัติทำให้น้ำหอมคงจะตัว ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ แต่จำเป็นจะต้องไม่ใช้ในจำนวนที่เข้มข้นไม่งั้นอาจเกิดอาการแพ้ได้
Sodium Chloride : โซเดียมคลอไรด์ หรือเกลือทะเล ไม่ทำให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด แต่ถ้าใช้ในจำนวนที่เข้มข้นเกินความจำเป็นก็ส่งผลให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ เจอในน้ำยาบ้วนปาก สบู่ อายครีม เกลืออาบน้ำ ฯลฯ
Stearic Acid : กรดสเตียริก เป็นสารที่กำเนิดไขมันและน้ำมันจากสัตว์ก็เลยออกจะปลอดภัย มักใช้เป็นส่วนที่นำมาผสมกันในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย โลชั่น ครีมรองพื้น และสบู่ มีคุณสมบัติช่วยสร้างความนุ่มนวล ลื่น เป็นประกายแวววาว