โค้ช แมนยู อาจารย์ที่ปรึกษารักษาการณของ “ปิศาจแดง” ออกมาให้ความคิดเห็นถึงโอกาสการติดท็อปโฟร์ของ พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้ของ สโมสร
วันอังคารที่ 19 เมษายน 2565 เข้าสู่ช่วงโค้งท้ายสุดของฤชมกาล 2021-22 สำหรับฟุตบอลในยุโรปและหลาย กลุ่มเริ่มต้นแสดงตัวทิศทางของสโมสรตัวของเราเองแล้วว่าจะเอาอย่างไรต่อจากนี้ไปดี ซึ่งล่าสุด ราล์ฟ รังนิก กุนซือรักษาการของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาเปิดใจถึงจังหวะการติดท็อป 4 ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ของสโมสร โค้ช แมนยู
ซึ่งทาง ราล์ฟ รังนิก เปิดเผยว่า “ปิศาจแดง” ของเขาเป็นรองในสถานการณ์ทั้งต่อ อาร์เซนอล และ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ และต้องการชัยชนะทุกเกมที่เหลือเพื่อโอกาสที่ดีกว่าเดิมของทีมของเขา แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่ รังนิก การันตีว่าจะพยายามอย่างเต็มที่ที่สุด เพื่อจะแฟนบอลทุกท่าน
“มันสังกัดหมวดหมู่เรา เราควรจะเป็น 3 คะแนนในทุกๆ เกม เพื่อที่จะการห่วยแตกงชิงลำดับชั้นที่ 4 หมวดหมู่เรารู้ตัวดีว่าเป็นรองหลาย กลุ่มที่ลุ้นในตำแหน่งนี้ แต่เราก็ยังพอมีหวังเล็กๆ เพื่อกลุ่มของพวกเรา”
“หมู่คุณจะเห็นว่าหลายๆ ทีมทำสกอร์หล่นขาดหายไปไม่บางส่วนในตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา และความสม่ำเสมอนั้นสำคัญมากๆ เพื่อทุกกลุ่มในขณะนี้ พวกพวกเราคงควรต้องทำให้ดียิ่งขึ้นในทุกๆ สัปดาห์เพื่อที่จะลำดับขั้นที่ 4 ในปีนี้ และเพื่อจะแฟนๆทุกคน”
เพื่อ “ปิศาจแดง” มีคิวที่ควรต้องเล่นตกค้างใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยจะบุกไปเยือน “แอนฟิลด์” ทำศึกแดงเดือดกับ ลิเวอร์พูล ในค่ำคืนนี้
นี่คือรูปจำจำลองอนาคตของ ราล์ฟ รังนิก ที่จะไปรับตำแหน่งผู้ชี้แนะสโมสรให้ แมนยูฯ หลังหมดข้อตกลงผู้ให้คำแนะนำชั่วคราวกับเมื่อจบฤชมกาลนี้
แฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจรู้กันดีว่า ราล์ฟ รังนิก จะหมดบทบาทนักบริหารทีมชั่วภายหลังจบฤชมกาลนี้ ก่อนขยับไปรับตำแหน่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของสโมสรเป็นขณะ 2 ปี ตามเงื่อนไขในสัญญาที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่เข้ามารับงานเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เพื่อส่งต่อเก้าอี้คนให้คำแนะนำ “ปิศาจแดง” ให้กับโค้ชคนใหม่ที่จะเข้ามารับงานแบบถาวรแทนตัวเขาเอง
แต่ด้วยผลงานที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ และโอกาสลุ้นติดดีกรี 1 ใน 4 ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพื่อคว้าโควตาไปลุย ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้า ก็ยังไม่ทราบดีว่าจะออกหัวหรือก้อย นำมาซึ่งการทำให้รูปจำจำลองอนาคตของ ราล์ฟ รังนิก ในตำแหน่งคนแนะนำของ แมนยูฯ คงอาจจะเป็นการนั่งเก้าอี้อยู่เฉยๆ โดยไม่มีใครมาเคาะประตูห้องเพื่อที่จะขอคำปรึกษาจากผู้ชี้แนะชาวเยอรมันเลยก็เป็นได้
ผลงานล่าสุด แมนยูฯ พึ่งเปิดบ้านเฉือนชนะ นอริช ซิตี้ กลุ่มเกรดสุดท้ายของหมายกำหนดการแบบหวุดหวิด 3-2 จาก คริสเตียโน โรนัลโด ที่โชว์ทีเด็ด ทำแฮตทริกที่ 60 ในชีวิตค้าแข้ง ส่งผลให้ “ปิศาจแดง” เก็บเพิ่มเติมเป็น 54 คะแนน ขึ้นมาอยู่ลำดับขั้น 5 ตามหลัง สเปอร์ส อันดับ 4 ที่แพ้คาบ้านให้ ไบรจ์ตัน 0-1 เหลือเพียงแค่ 3 แต้ม ยังพอมีโอกาสไปเล่น ยูฟ่า แดูเปียนส์ลีก ฤชมกาลหน้า
กลุ่มแฟนบอลแมนยูฯ เริ่มต้นการชุมนุมขับไล่เจ้าของสโมสรแล้ว ก่อนเกมพรีเมียร์ลีกต้อนรับ นอริช ด้าน ราล์ฟ รังนิก ตอบสนองในทันที
วันที่ 15 เมษายน 2565 หมู่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมารวมตัวประท้วงกันที่หน้าศูนย์ฝึกแคร์ริงตันของสโมสร เพื่อที่จะทำให้ทราบจุดยืนสำหรับในการเคลื่อนไล่ “ตระกูลเกลเซอร์” เจ้าของสโมสรชาวอเมริกันที่อยู่กับทีมครบ 17 ปีในปีนี้ แต่ขณะข้างหลังเริ่มต้นห่างไกลจากโอกาสบรรลุความสำเร็จ
ฤชมกาลนี้ “ปิศาจแดง” หมดลุ้นแดูป์ทุกรายการเป็นปีที่ 5 ติดต่อและทำการสื่อสารกันแล้ว! โดยนัดตอนนี้ก็เพิ่งออกไปแพ้ เอฟเวอร์ตัน กลุ่มหนีตกดีกรี 0-1 นำมาซึ่งการทำให้เดี๋ยวนี้หล่นมาอยู่ชั้นเชิง 7 ของพรีเมียร์ลีก มี 51 คะแนน ตามหลัง สเปอร์ส ระดับ 4 อยู่ 6 แต้ม จังหวะคว้าโควตาไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤชมกาลหน้า เริ่มต้นยากเต็มที เป็นเหตุให้แฟนบอลแมนยูฯ ออกมารวมตัวขับเคลื่อนไล่เจ้าของสโมสร ด้วยการชูป้ายผ้าที่มีเนื้อความว่า “ตระกูลเกลเซอร์ ออกไปซะ” และ “ความอัปยศ-ไม่เหมาะที่จะสวมเสื้อทีมนี้”!
รายงานกำหนดว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้มีการเดินขบวนรอบศูนย์ฝึกหัดแคร์ริงตันพร้อมจุดพลุควัน โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความไม่เป็นอันตรายของ แมนยูฯ คอยดูสถานการณ์ และเกิดการเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเฝ้าระวังด้วย แต่ก็ไม่มีการใช้กำลังอะไรก็แล้วแต่ ก่อนแยกย้ายกันไป
ด้าน แมนยูฯ ออกมาแถลงว่า “วันนี้มีการประท้วงเล็กๆ อย่างสันตินอกศูนย์ฝึกหัดแคร์ริงตัน เราเคารพความเห็นของแฟนบอล และยังคงจะตั้งใจจริงที่จะเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของเรากับหมวดเขา”
ช่วงเวลาที่ ราล์ฟ รังนิก ที่ปรึกษาชั่วคราวก็กล่าวถึงการชุมนุมประท้วงสำหรับเพื่อการแถลงข่าวสารก่อนเกมพรีเมียร์ลีก!แมนยูฯ เปิดบ้านเจอ นอริช ซิตี้ ทีมเกรดท้ายสุด วันเสาร์ที่ 16 เมษายนนี้ เวลา 21.00 น. ว่า “ทุกคนรู้ว่าฟุตบอลเป็นเกมแห่งความรักและอารมณ์ ผมเข้าใจได้ว่าหมวดเขาไม่สมหวังกับระดับบนตารางคะแนนและผลงานของพวกเราที่ เอฟเวอร์ตัน แต่ผมยังมั่นใจว่ากองเชียร์ของเราเป็นเยี่ยมในทีมที่ดีที่สุด ตราบเท่าที่หมู่เขาประท้วงอย่างสันติ และส่งเสริมกลุ่มในสนาม หมวดหมู่เขามีสิทธิ์แสดงความเห็น”!
ทั้งนี้ กลุ่มแฟนบอลแมนยูฯ ชื่อว่า The 1958 ตระเตรียมนัดชุมนุมประท้วงก่อนเกมพบ นอริช ด้วยการรวมตัวรอบๆด้านนอกสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด! ก่อนเดินขบวนในพื้นที่โดยรอบ และจะไม่เข้าไปดูเกมในช่วง 17 นาทีแรก ตามปริมาณปีที่ “ตระกูลเกลเซอร์” เข้ามาควบคุมสโมสร แต่การันตีว่าจะไม่ประท้วงบานปลายเหมือนปีที่ผ่านมา! ซึ่งเกิดการบุกเข้าไปถึงในสนามจนจึงควรเลื่อนเกมแดงเดือดที่เปิดบ้านต้อนรับ ลิเวอร์พูล ออกไปแข่งขันวันอื่น พร้อมด้วยงดแฟนบอลเข้าสนามในนัดแข่งใหม่.!
อาจารย์ที่ปรึกษาชั่วคดังยอมรับ แมนยูฯ คงจำเป็นที่จะต้องใช้ช่วง 18 เดือนสำหรับในการซ่อมแซมกลุ่มให้เข้าที่ เผย 2 จุดบอด หลังส่อวืดท็อป 4 พรีเมียร์ลีก
วันที่ 4 เม.ย. 65 ราล์ฟ รังนิก คนแนะนำชั่วคเหมือนกับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ข้างหลังเปิดบ้านทำเป็นแล้วได้แค่เสมอ! เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน ส่งผลให้ “ปิศาจแดง” มี 51 คะแนน จาก 30 นัด หล่นมาอยู่ลำดับชั้น 7 โอกาสลุ้นท็อปโฟร์เพื่อจะคว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤชมกาลหน้า เริ่มยากขึ้น เพราะว่าตาม สเปอร์ส! ลำดับชั้น 4 และ อาร์เซนอล ชั้น 5 ที่มี 54 แต้มเท่ากัน อยู่ 3 คะแนน ซึ่ง “ปืนใหญ่” ยังแข่งน้อยกว่า 2 เกมอีกต่างหาก!
ราล์ฟ รังนิก ซึ่งจะไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาสโมสรของ แมนยูฯ หลังจบฤดูกาลนี้! ฝากถึงคนให้คำแนะนำคนใหม่ที่จะเข้ามารับตอนต่อจากเขา! โดยเจาะจงถึงสภาวะทีมที่เป็นอยู่ในตอนนี้ และข้อขัดแย้งสำคัญ 2 ประการ (ความแกร่ง, ความดุดัน) ว่า “แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล! ต่างก็สร้างทีมมาเป็นตอน 5-6 ปี ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลอยู่ภายใต้สมมติฐานที่ว่าโค้ชควรจะเป็นจะเล่นยังไง! ผมพูดกับกระดานจัดการว่านี่คือสิ่งที่จะต้องกำเนิดขึ้นอยู่กับยูไนเต็ด”
“เมื่อพวกเราได้โค้ชหน้าใหม่แล้ว มันต้องเป็นใบหน้าที่ว่าเขาต้องการเล่นยังไง และเราต้องการนักเตะแบบไหนเพื่อสิ่งนั้น และก็วกกลับมาที่เรื่องดีเอ็นเอของทีมว่าพวกเราต้องการอะไร ความรวดเร็ว ความแข็งแรง โอกาส ซึ่งกลุ่มนี้มิได้ขาดผู้เล่นวิธีและเทคนิคดี แต่ควรจะเสริมในเรื่องพละกำลังมากกว่า จำเป็นต้องเกิดการตกลงใจที่ถูกต้องว่าจะไปทางไหน ต้องการได้นักเตะและผู้จัดการทีมแบบไหน และในทุกตลาดซื้อขาย ก็ควรต้องพากเพียรทำเพื่อจะสิ่งนั้นเท่าที่จะเป็นไปได้”
“มันไม่มีความจำเป็นต้องยาวนานถึง 3-4 ปี ก็อาจจะจำเป็นที่จะต้องใช้ระหว่างสัก 2-3 รอบตลาดนักเตะ เหตุการณ์คงจะผิดแผกแตกต่างออกไป ผมไม่มีความคิดว่าเราขาดคาแรกเตอร์ แต่สิ่งที่และแจ่มแจ้งในบางตอนของเกมคือเราเป็นรองในเรื่องสภาพร่างกาย มันเกิดเรื่องของการดวลตัวต่อตัว เมื่อใดก็ตามที่มีการปะทะกัน พวกเราโดยส่วนมากจะเป็นรองบ่อยมากเกินไป นั่นคือสิ่งที่เราต้องส่งผลให้ดีขึ้นในช่วงที่เหลือของฤชมกาลนี้ แต่ต้องดียิ่งไปกว่านั้นสำหรับฤชมกาลหน้า”
“มีบางเวลาที่ผมคิดว่าพวกเราคงจะดุดันมากขึ้น ปะทะได้ดิบได้ดีขึ้น ก้าวร้าวเพิ่มมากขึ้น แต่เราก็ทำมิได้ อันที่จริงแล้วมันจำเป็นต้องอยู่ในดีเอ็นเอของนักเตะสักหน่อย แต่มันก็ยากที่จะทำให้ผู้คนที่มีวิธีและเทคนิคดีกลายเป็นผู้เล่นที่ดุดัน และเรามีหลายๆคนที่เป็นผู้เล่นสายเทคนิคและวิธี ผมไม่คิดว่ามันเกี่ยวข้องกับทัศนคติ แต่มันเกี่ยวข้องกับดีเอ็นเอของผู้เล่นที่มีอยู่”.